ด้านวิชาการและส่งเสริมความรู้

สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชินูปถัมภ์  

จัดโครงการสัมมนาวิชาการ  เรื่อง  กฎหมายที่สตรีควรรู้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  ๒๕๖๐

 ระหว่างวันที่  ๒๑ - ๒๒  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๖๑ 

ณ  ห้องแกรนด์พลาสโซ่  โรงแรมเดอะพาลาสโซ  ถนนรัชดาภิเษก  กรุงเทพฯ

              โดย  นางสุวรรณ  สิริเวชชะพันธ์  นายกสมาคมฯ  กล่าวว่า  "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐    สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูล ได้มีพระบรมราชโองการให้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐  ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ณ วันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๐  มีบทบัญญัติที่คุ้มครองสิทธิสตรี, ความเสมอภาคระหว่างเพศ และความเสมอภาคหญิงชาย  

                    ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้มีการตรากฎหมายหลายฉบับ  เพื่อคุ้มครองสิทธิ และผู้ที่ถูกเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมระหว่างเพศ  เช่น พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐, พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.๒๕๕๘  แม้ รัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายแม่บทรวมถึงกฎหมายลำดับรองจะบัญญัติถึงสิทธิ  และความเท่าเทียมระหว่างหญิงชายเเต่ความรู้ความเข้าใจและการเข้าถึงสิทธิต่างๆ ของประชาชน  โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มสตรียังไม่เข้าถึง

                สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมยแห่งประเทศไทย  ในพระบรมราชินูปถัมภ์  เป็นองค์กรสาธารณกุศล  ที่มีวัตถุประสงค์ในการเผยเเพร่ความรุู้ทางกฎหมายแก่ประชาชน, การให้คำปรึกษา  ประนีประนอมข้อพิพาท, ให้การสงเคราะห์แก่ผู้มีปัญหาด้านกฎหมาย, การส่งเสริมการศึกษาและการประกอบอาชีพทางกฎหมายของสตรี, การศึกษาและวิเคราะห์บทบัญญัติของกฎหมายเพื่อหาทางแก้ไข  เพื่อให้เิกิดความเป็นธรรมในสังคมยิ่งขึ้นได้เล็งเห็นความสำคัญของการสร้างองค์ความรู้  ความเข้าใจ  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐  และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสตรีจึงได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ  เรื่อง "กฎหมายที่สตรีควรรู้ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐

                   การจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการฯ  ในครั้งนี้  เพื่อให้ผู้เข้ารับการสัมมนามีความรู้  ความเข้าใจสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐  หลักความเสมอภาค  และหลักสิทธิมนุษยชน  การพัฒนาการของสิทธิสตรีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช ๒๕๖๐  พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ.๒๕๕๐          พระราชบัญญัติความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.๒๕๕๘  และพระราชบัญญัติคำนำหน้านามหญิง พ.ศ.๒๕๕๑  ให้มีความตระหนัก  และปรับเปลี่ยนทัศนคติ  เห็นความสำคัญ  เข้าใจ  เข้าถึง และสามารถ  นำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้"